โรงเรียนไทยในชนบทช่วยยูเอ็นวางแนวทางเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในชุมชนด้อยโอกาส

สหประชาชาติ ประจำประเทศไทย เฉลิมฉลองความร่วมมือกับโรงเรียนในชนบทของจังหวัดบุรีรัมย์ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ในการดำเนินเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนกับชุมชนระดับรากหญ้าในประเทศไทย ก่อนวันสหประชาชาติที่กำลังจะมาถึง ซึ่งตรงกับวันที่ 24 ตุลาคมของทุกปี

ผู้ประสานงานสหประชาชาติประจำประเทศไทย เดียร์ดรา บอยด์ และกลุ่มตัวแทนจากทีมสหประชาชาติประจำประเทศ ได้เยี่ยมชมโรงเรียนมีชัยพัฒนา อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จของโรงเรียนในประยุกต์ใช้เป้าหมายการพัฒนาเข้ากับบริบทที่แท้จริงของท้องถิ่น

นับตั้งแต่การก่อตั้งโดยนักกิจกรรมชาวไทยคนสำคัญ คุณมีชัย วีระไวทยะ ในปี 2551 โรงเรียนมีชัยพัฒนาได้ใช้นวัตกรรมการเรียนการสอนที่มุ่งเน้นความยั่งยืนและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ ผู้ปกครองที่ต้องการนำบุตรหลานเข้าเรียนที่นี่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการสมัครเรียน เพียงแค่ต้องปลูกต้นไม้รวม 800 ต้น และเข้าร่วมในกิจกรรมบริการชุมชน 800 ชั่วโมงต่อปี

ในโอกาสนี้ นักเรียนของโรงเรียนมีชัยพัฒนา พร้อมด้วยนักเรียนจากอีก 18 โรงเรียนทั่วภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ได้มารวมตัวกันและให้คำมั่นว่าจะเป็นผู้สนับสนุนการนำเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนไปปรับใช้ในชุมชนของตน

นักเรียนได้ปฏิญาณว่า “เราได้ลงนามเพื่อให้คำมั่นว่าจะสนับสนุน สื่อสาร และนำเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนไปใช้ในโรงเรียนของพวกเราและในหมู่บ้านโดยรอบ เพื่อปรับปรุงคุณภาพชีวิตของทุกคน” ทีมสหประชาชาติประจำประเทศไทยได้ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามคำมั่นสัญญานี้ด้วย

พิธีดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองวันสหประชาชาติ ซึ่งจัดโดยโรงเรียนมีชัยพัฒนาและทีมสหประชาชาติประจำประเทศไทย การเฉลิมฉลองในหัวข้อ “เด็กคืออนาคต” มีวัตถุประสงค์เพื่อเน้นย้ำถึงบทบาทของเยาวชนและชุมชนท้องถิ่นในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน และความสำคัญของการศึกษาที่ยึดความยั่งยืนเป็นศูนย์กลาง

เดียร์ดรา บอยด์ ผู้ประสานงานประจำประเทศ กล่าวเกี่ยวกับการผลักดันเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนว่า เราต้องรับฟังและช่วยส่งเสริมความมุ่งหวังของชุมชนท้องถิ่น “เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนได้รับการกำหนดโดยการหารือระดับโลกของผู้นำระดับโลกทั้งหมด ซึ่งอาศัยมุมมองและความต้องการของทุกคนบนโลกใบนี้เป็นพื้นฐาน หากเราต้องการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนสำหรับโลก เราต้องเริ่มจากการบรรลุเป้าหมายในระดับท้องถิ่นให้ได้เสียก่อน” เดียร์ดรากล่าว “โรงเรียนมีชัยพัฒนาและชุมชนโดยรอบทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมในการนำเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนมาปรับใช้ในบริบทของท้องถิ่น”

นอกเหนือจากการจัดแสดงโครงการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนให้กับตัวแทนจากทีมสหประชาชาติประจำประเทศแล้ว นักเรียนยังมีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้แทนสหประชาชาติ และตัวแทนจากทีมสหประชาชาติประจำประเทศ เกี่ยวกับการนำเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนมาใช้ในประเทศไทย ในช่วง “ห้องเรียนเพื่อการแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน” (SDGs Exchange Classroom) อีกด้วย 

หมู่บ้านตัวอย่างเพื่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน

ทีมงานสหประชาชาติประจำประเทศยังได้เยี่ยมชมบ้านกวางงอยพัฒนา ตำบลโคกกลาง ซึ่งเป็นหมู่บ้านเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนแห่งแรกในจังหวัดบุรีรัมย์ หมู่บ้านนี้ได้รับการกำหนดให้เป็นหมู่บ้านต้นแบบในการปรับใช้เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนให้เข้ากับท้องถิ่นสำหรับชุมชนอื่น ๆ โดยรอบอีก 16 แห่ง อนึ่ง บ้านกวางงอยพัฒนาจัดเป็นชุมชนที่ด้อยโอกาสมากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย

โรงเรียนมีชัยพัฒนามีวิสัยทัศน์ที่จะเป็นศูนย์กลางความก้าวหน้าทางสังคมและเศรษฐกิจให้กับสมาชิกชุมชน และได้จัดทำโครงการมากมายที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนร่วมกับหมู่บ้านโดยรอบมาหลายปีแล้ว เช่น การจัดการขยะ การจัดการน้ำ การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และพลังงานสะอาด ขณะนี้เหลือเวลาอีกแค่เพียง 10 ปี ก่อนจะถึงวันครบกำหนดของการพิชิตเป้าหมายใน ค.ศ. 2030 โรงเรียนจึงได้ตัดสินใจที่จะดำเนินการก้าวสำคัญในการนำเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนมาใช้ให้ทั่วถึงยิ่งขึ้น

โรงเรียนมีชัยพัฒนาได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการกับชาวบ้าน และให้ความรู้เกี่ยวกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน หารือว่าเป้าหมายใดเป็นเรื่องเร่งด่วนและเกี่ยวข้องกับพวกเขามากที่สุด จากนั้นร่วมกันระดมความคิดเพื่อกำหนดปณิธานให้กับหมู่บ้าน ชุมชนและโรงเรียนจะประชุมกันอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้ เพื่อกำหนดเป้าหมายและตัวชี้วัดตามกรอบการทำงานระดับโลกของเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน