จากแรงบันดาลใจเพื่อโอกาสที่เท่าเทียมในสังคม สู่การทำงานเพื่อสิทธิเด็ก
ㅤ
เจ้าหน้าที่องค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูนิเซฟ จากหลากหลายเรื่องราวชีวิต มาเล่าย้อนความหลังถึงเส้นทางในการทำงานเพื่อเด็กทุกคน
กว่า 75 ปีมาแล้วที่เจ้าหน้าที่ยูนิเซฟทุกคนได้มุ่งมั่นทำงานเพื่อช่วยให้เด็ก ๆ ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก เอาชนะโรคร้าย ได้เข้าถึงบริการพื้นฐานที่จำเป็น ได้รับการศึกษาและพัฒนาทักษะ ได้มีชีวิตความเป็นอยู่และสิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัยและสะอาด ในบทความชุด “เบื้องหลังพลังยูนิเซฟ” (The Faces of UNICEF in Thailand) นี้ เราจะมาสอบถามพวกเขาถึงชีวิตทั้งด้านอาชีพการงานและส่วนตัว ที่นำพวกเขามาสู่เส้นทางของการทำงานเพื่อปกป้องสิทธิเด็กทั่วทุกแห่งหน
กว่าทศวรรษแล้วที่ผมได้ทำงานในฐานะเจ้าหน้าที่ยูนิเซฟ หลังจากที่ผมได้ทำงานที่กระทรวงศึกษาธิการมาหลายปี ผมยังรู้สึกว่าตัวเองยังพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ หนึ่งในสิ่งที่เยี่ยมมากๆ เกี่ยวกับยูนิเซฟก็คือ ยูนิเซฟเป็นองค์กรที่สนับสนุนให้ผมฟังเสียงของผู้ที่จะมาสร้างสรรค์อนาคตอย่างตั้งใจ ใกล้ชิด และเข้าใจ เพราะการฟังเสียงของคนรุ่นใหม่ด้วยใจของเรานี่แหละ ที่จะช่วยทำให้ยูนิเซฟสามารถทำงานเพื่อเด็กทุกคนอย่างมีประสิทธิภาพได้
ดร.รังสรรค์ วิบูลย์อุปถัมภ์ เจ้าหน้าที่ด้านการศึกษา องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย
ฉันได้ค้นพบพลังแห่งการแบ่งปันและช่วยเหลือผู้อื่นที่ประเทศไทย ที่ที่ฉันเติบโตขึ้นมาในวัยเด็ก และ 25 ปีให้หลัง ฉันก็ได้กลับมาทำงานเพื่อเด็กกับยูนิเซฟ ประเทศไทย มันเหมือนกับความฝันที่เป็นจริง ลูก ๆ ของฉัน ธีโอ และ เอลีส ตอนนี้ต่างก็เติบโตด้วยความฝันและความชื่นชอบนี้เช่นกัน สำหรับพวกเขาแล้ว มันคือการตอบแทนสู่สังคมและการเรียนรู้ที่จะช่วยเหลือชุมชนที่ตนอาศัยอยู่ สำหรับตัวฉันเอง มันคือการแบ่งปันสิ่งที่ตนชื่นชอบและช่วยให้ผู้อื่นได้เข้าใจถึงความแตกต่างที่พวกเขาจะลงมือสร้างขึ้นมาได้ แม้ว่ามันจะเป็นเพียงแค่การช่วยบรรจุสิ่งของช่วยเหลือด้านสุขอนามัยก็ตาม
เซเวอรีน เลโอนาร์ดี รองผู้อำนวยการองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย
“ผมไม่มีความฝัน เพราะตัวผมก็คือผม แค่นั้นเลย” เด็กนักเรียนคนหนึ่งบอกกับฉันตอนที่ฉันเป็นอาสาสมัครอยู่ที่ค่ายผู้ลี้ภัยแม่ลา ในจังหวัดตาก ซึ่งเป็นค่ายผู้ลี้ภัยแห่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย ฉันบอกกับตัวเองว่า “นี่มันไม่ถูกต้องเลย” ฉันเชื่อว่าทุกคนมีสิทธิที่จะมีความฝันได้ และหลังจากวันนั้นเป็นต้นมา ฉันก็ไม่เคยหยุดที่จะทำงานอาสาสมัคร และบทสนทนาครั้งนั้นก็นำฉันมาสู่การทำงานกับยูนิเซฟเพื่อช่วยเหลือเด็ก ๆ ได้ไล่ตามความฝันของพวกเขา
โชติรส สุขสังวรวงศ์ เจ้าหน้าที่ผู้ช่วยฝ่ายสื่อสารองค์กร องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย
ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา ฉันได้ทำงานกับยูนิเซฟในประเด็นปัญหาหลาย ๆ ด้าน ตั้งแต่การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ การยุติความรุนแรงต่อเด็ก การพัฒนาเด็กปฐมวัย ไปจนถึงการสื่อสารในช่วงสถานการณ์ฉุกเฉิน การได้ลงพื้นที่ทำงานและได้เห็นว่ายูนิเซฟได้สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับชีวิตของเด็ก ๆ เป็นแรงบันดาลใจให้ฉันทำงานมุมานะต่อไปในทุก ๆ วัน แม้ว่าจะต้องบุกน้ำลุยโคลน มันก็คุ้มค่า
นภัทร พิศาลบุตร เจ้าหน้าที่ด้านการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและสังคม องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย
ฉันได้รับแรงบันดาลใจอย่างมากจากหลานของฉันสองคนที่อายุ 3 และ 6 ขวบ การได้เฝ้ามองพวกเขาเติบโตเป็นความสุขอย่างมาก ฉันอยากจะเป็นคุณป้าที่ดูคูล ๆ ในสายตาของพวกเขา ที่มีเรื่องราวดี ๆ มาเล่าให้พวกเขาได้ฟัง โดยเฉพาะเรื่องราวการได้ช่วยเหลือผู้อื่น และการได้เป็นส่วนหนึ่งของยูนิเซฟ องค์กรที่ช่วยเหลือเด็ก ๆ ทั่วโลก ฉันหวังว่านี่จะเป็นเรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับหลานตัวน้อยทั้งสองของฉัน ให้เป็นคนมีเมตตาและคอยช่วยเหลือผู้คน เมื่อพวกเขาโตขึ้น
สุวที แสนหลวง ที่ปรึกษาด้านการทำงานร่วมกับผู้มีชื่อเสียง องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย
เมื่อใดก็ตามที่ฉันต้องเผชิญความท้าทายในการชวนผู้คนตามท้องถนนมาร่วมบริจาคท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และวิกฤตเศรษฐกิจ ฉันจะคอยนึกเอาไว้เสมอว่าทำไมฉันถึงได้เข้ามาเป็นอาสาสมัครให้กับยูนิเซฟตอนที่เรียนอยู่มหาวิทยาลัย และทำไมฉันถึงได้ภูมิใจที่เป็นตัวแทนระดมทุนให้กับยูนิเซฟในวันนี้ เพื่อที่ฉันจะได้เป็นกระบอกเสียงที่เข้มแข็งเพื่อบอกกับผู้คนว่าเขาสามารถมีส่วนร่วมสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับเด็ก ๆ ในทุก ๆ ที่ได้อย่างไร
พนัชกร เมืองฟัก เจ้าหน้าที่ระดมทุน องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย
อ่านต้นฉบับจากยูนิเซฟ ประเทศไทย
Tags: #youth #childrights #thailand