คำกล่าวของผู้ประสานงานสประชาชาติประจำประเทศไทย ที่งานนิทรรศการ UN75 and Urban October Exhibit
คำกล่าวของผู้ประสานงานสประชาชาติประจำประเทศไทย ที่งานนิทรรศการ UN75 and Urban October Exhibit ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิลด์ 22 ต.ค. 2020
ดิฉันมีความยินดีที่ได้มาอยู่กับทุกท่านในวันนี้ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิลด์ ในงานนิทรรศการ UN75 and Urban October Exhibit ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของเมืองและชุมชนที่ยั่งยืนในประเทศไทย ตามพันธสัญญาของเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนข้อ 11 ว่าด้วยอุตสาหกรรม นวัตกรรม และโครงสร้างพื้นฐาน
ดิฉันขอขอบคุณพันธมิตรหลายฝ่ายที่ทำให้นิทรรศการครั้งนี้เกิดขึ้น ครอบครัวสหประชาชาติในประเทศไทยทราบซึ้งในความร่วมมือที่ได้รับเป็นอย่างมาก
นิทรรศการนี้ถูกจัดขึ้นในช่วงเวลาที่สำคัญยิ่งของโลก ระหว่างการระบาดใหญ่ของโควิด 19 ซึ่งส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของเราอย่างมาก และทำให้ผู้คนจำนวนมากเสี่ยงต่อการกลายเป็นคนไร้บ้าน
ดิฉันเดินทางมาถึงประเทศไทยในเดือนมีนาคม แทบจะทันทีหลังจากที่เกิดการระบาด และหนึ่งในภารกิจสำคัญอันดับแรก ๆ ของดิฉัน ก็คือการปรึกษาหารือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เป็นตัวแทนของชุมชนรายได้น้อยในเขตเมือง รวมถึงมูลนิธิอิสรชล และมูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัย เพื่อให้เข้าใจถึงผลกระทบของโควิด 19 ที่มีต่อชุมชนเหล่านี้
ดิฉันขอชื่นชมในความทุ่มเทของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในการรับมือโรควิด 19 การให้บริการที่พักพิงโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายตลอด 24 ชั่วโมง การเปิดสายด่วนพิเศษเพื่อให้ความช่วยเหลือทางสังคม และการสร้างทักษะใหม่ ๆ ให้ประชาชนเพื่อเปิดโอกาสทางอาชีพการงาน
ดิฉันขอยกย่องการดำเนินการอย่างรวดเร็วของการเคหะแห่งชาติ ในการบังคับใช้มาตรการลดค่าเช่าบ้านสำหรับผู้อยู่อาศัยและผู้ค้าปลีกในชุมชนของหน่วยงาน และการเปิดห้องพักพิงให้กับผู้ที่เสี่ยงต่อการเป็นคนไร้บ้าน
สัปดาห์นี้ยังมีการเฉลิมฉลอง ‘สัปดาห์เมืองอัจฉริยะ’ (Smart Cities Week 2020) ในประเทศไทย ซึ่งจัดโดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
ดิฉันขอเชิญชวนให้ทุกท่านเข้าร่วมการอภิปรายในหัวข้อ “อนาคตของฉัน เมืองของฉัน” (My Future, My City) ในวันนี้ เพื่อศึกษารายละเอียดของประเด็นต่าง ๆ เช่น การเข้าถึงทรัพยากร และความเหลื่อมล้ำ ซึ่งเป็นประเด็นที่สอดคล้องกับแนวคิดเรื่องเมืองอัจฉริยะ
จำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องพูดคุยเกี่ยวกับเมืองอัจฉริยะให้มากขึ้น ต้องกล่าวถึงเรื่องการประหยัดพลังงานและแนวทางแก้ปัญหาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในเขตเมืองของประเทศไทย เพราะพื้นที่เขตเมืองนั้นต้องการแหล่งพลังงานที่มีความต่อเนื่อง และใช้พลังงานปฐมภูมิของโลกในปริมาณที่สูงมากเกินกว่าที่ควรจะเป็น
ประมาณร้อยละ 19 ของการผลิตพลังงานทั่วโลกนั้นเกิดขึ้นในภายในครัวเรือน แต่ในขณะเดียวกัน เราก็รู้ดีว่าการใช้พลังงานและการลดปริมาณมลพิษที่เกิดจากการใช้พลังงานนั้นของเรานั้น ไม่ได้หยุดอยู่แค่ในระดับครัวเรือน
เพื่อที่จะแสดงให้เห็นว่าเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนทุกข้อนั้นมีความเชื่อมโยงกัน เราต้องยอมข้อเท็จจริงที่ว่าชุมชนเมืองนั้นต้องอาศัยการเข้าถึงบริการต่าง ๆ เช่น น้ำสะอาด สุขาภิบาล การจัดการของเสีย และการขนส่ง ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องการแนวทางแก้ปัญหาที่ยั่งยืน การกระจายพลังงานต้องเป็นไปอย่างยั่งยืน ทั่วถึง และเป็นธรรม
เราทราบว่ายังมีภารกิจที่จะต้องทำเพื่อบรรเทาปัญหาคนไร้บ้านและสภาพความเป็นอยู่ที่ย่ำแย่ที่ครอบครัวรายได้น้อยประมาณ 2.7 ล้านครอบครัวในประเทศไทยต้องเผชิญ นื่คือปัญหาเรื้อรังที่ได้รับการบัญญัติไว้ในแผนแม่บทการพัฒนาที่อยู่อาศัย และเป็นประเด็นที่สหประชาชาติมีความกังวล
นิทรรศการยังเน้นย้ำถึงความสำเร็จที่เกิดขึ้น เช่น การจัดหาที่อยู่อาศัยทั่วเมืองสำหรับทุกคน โครงการเงินออมและเงินกู้ชุมชน และโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้ที่มีความเปราะบางและไร้ที่อยู่อาศัย
สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนได้ดำเนินการด้านนี้ โดยสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนทั่วประเทศไทย ทั้งในเมืองและชนบท มาเป็นเวลา 20 ปี
ลักษณะเด่นของกรุงเทพมหานครคือการกลายเป็นเมืองอย่างชัดเจนในช่วงครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลมาจากความพยายามร่วมกันอย่างแข็งขัน นำโดยรัฐบาลไทย และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่น ๆ รวมถึงครอบครัวสหประชาชาติ
ดิฉันขอกล่าวสรุปด้วยการขอความร่วมมือจากทุกท่านในการร่วมทำกิจกรรมที่สำคัญ และหวังว่าทุกท่านจะร่วมมือกับดิฉัน
เนื่องจากปีนี้ เป็นปีครบรอบ 75 ปีของสหประชาชาติ เราจึงได้จัดการหารือทั่วโลกเกี่ยวกับ ‘โลกที่เราต้องการ’ และดิฉันอยากขอให้ทุกท่านทำแบบสำรวจออนไลน์ UN75 ที่ใช้เวลาเพียง 1 นาที และยังเป็นโอกาสที่คุณจะได้เป็นส่วนหนึ่งของงานนิทรรศการด้วย
ขอขอบคุณทุกท่านอีกครั้งสำหรับการมีส่วนร่วมในงานนิทรรศการและโครงการในวันนี้ ดิฉันขอให้ทุกท่านได้รับประสบการณ์ที่ช่วยเปิดโลกทัศน์ และมีการหารือที่ก่อให้เกิดประโยชน์สืบไป