เรียนรู้เรื่องการสร้างวินัยเชิงบวกด้วยหนังสือนิทานและรอยยิ้ม
ผู้เชี่ยวชาญร่วมกับครูทำให้โรงเรียนเป็นสถานที่ปลอดภัยให้เด็กได้เรียนรู้
“โรงเรียนของเราน่าอยู่ คุณครูใจดีทุกคน เด็ก ๆ ก็ไม่ซุกซน เพราะเราทุกคนชอบไปโรงเรียน”
เนื้อหาในเพลงนี้ที่เด็กนักเรียนทั่วประเทศไทยร้องกันทั่วไปบรรยายถึงสถานที่ที่เด็ก ๆ ทุกคนอยากไป อันเป็นสถานที่แห่งความหวังและความฝัน ที่นักเรียนทุกคนปลอดภัย และได้พัฒนาทักษะพร้อมประสบการณ์การเรียนรู้ แต่เมื่อไรที่โรงเรียนเป็นสถานที่น่ากลัว และเต็มไปด้วยการลงโทษด้วยการตี จะทำให้เด็ก ๆ ต้องเสี่ยงกับสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ย่ำแย่ ต้องออกจากโรงเรียนกลางคัน และบ่มเพาะนิสัยรุนแรงเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ยูนิเซฟเข้าใจและเล็งเห็นถึงปัญหาที่เกิดขึ้น จึงส่งเสริมการสร้างวินัยเชิงบวกแทนการลงโทษ ผ่านกิจกรรมที่สนุกและสร้างสรรค์ในห้องเรียนเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและเข้าใจกันระหว่างคุณครูกับนักเรียน
เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ยูนิเซฟ ประเทศไทย ได้จัดเสวนาออนไลน์เรื่อง “นิทานต้นไม้ริมฝั่งน้ำกับการร่วมกันเสริมสร้างวินัยเชิงบวก” โดยได้รับเกียรติจากวิทยากร 2 ท่านได้แก่ ผศ.ดร. สมบัติ ตาปัญญา คุณหมอนักจิตวิทยาคลินิก ประธานมูลนิธิสันติธรรม ผู้แปลและเรียงเรียงหนังสือนิทานต้นไม้ริมฝั่งน้ำ และครูเเจง ศิริพร ทุมสิงห์ คุณครูแนะแนวจากโรงเรียนปทุมวิไล จังหวัดปทุมธานี ผู้ริเริ่มแคมเปญก่อการสิทธิเด็ก มีผู้เข้าร่วมการเสวนาทั้งหมด 40 ท่าน สมัครเข้าร่วมผ่านทางช่องทางฉันคืออาสาสมัครยูนิเซฟ โดยส่วนใหญ่มาจากภาคการศึกษา ที่มีความตั้งใจเป็นกระบอกเสียงและริเริ่มส่งเสริมวินัยเชิงบวกในชั้นเรียนของเด็ก ๆ
การเสวนาในวันนั้นวิเคราะห์ถึงความเข้าใจผิดว่าการลงโทษเป็นสิ่งจำเป็นและได้ผลดีในการใช้จัดการพฤติกรรมของเด็ก ๆ ตามสำนวนไทยโบราณที่ว่า “รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี” แต่แท้จริงแล้วความเชื่อเช่นนั้นแทบจะไม่สามารถสร้างนิสัยเชิงบวกให้แก่เด็ก ๆ ได้ ซ้ำยังกลับเป็นการทวีคูณให้แย่ลงไปอีก แทนที่จะเดินรอยตามผู้ใหญ่ทั้งหมด การเสวนาส่งเสริมให้สร้างนิสัยที่ดีแก่เด็กด้วยการสร้างความสัมพันธ์เชิงบวกกับเด็ก ๆ ผ่านการรับฟังเด็ก ๆ ด้วยหัวใจ ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน และสอนทักษะจำเป็น เช่น ความรับผิดชอบ ความเห็นอกเห็นใจกัน ความร่วมมือ และความมีวินัย
การส่งเสริมกิจกรรมสร้างวินัยเชิงบวกไม่ได้จบลงที่การเสวนา เพราะการสร้างวินัยเชิงบวกต้องอาศัยการวางแผนและการลงมือทำในระยะยาว ทีมงานอาสาสมัครฉันคืออาสาสมัครยูนิเซฟจึงเดินหน้าผลักดันให้เนื้อหาและองค์ความรู้ที่ได้จากงานเสวนาในครั้งนี้มาบูรณาการต่อในโรงเรียน โดยทำงานร่วมกับมูลนิธิศานติธรรมและ InSkru นำหนังสือนิทาน “ต้นไม้ริมฝั่งน้ำ” มาประยุกต์ต่อยอดเป็นกิจกรรมการ์ดเกม เพื่อให้นักเรียนและคุณครูมีส่วนร่วมในการขีดเขียนเรื่องราวต้นไม้ริมฝั่งน้ำร่วมกันต่อไปอย่างสร้างสรรค์
หนังสือนิทานต้นไม้ริมฝั่งน้ำ เป็นเรื่องราวการสร้างเสริมวินัยเชิงบวกผ่านเรื่องของคุณครูที่ลงโทษนักเรียนด้วยความรุนแรง หนังสือนิทานเล่าเรื่องราวที่ทำให้ผู้อ่านเห็นภาพของนักเรียนที่ต้องประสบกับปัญหาในจิตใจ และความรู้สึกผิดในใจครู นิทานเรื่องนี้จะทำให้ครูเข้าใจตนเอง ช่วยนักเรียนให้เข้าใจคุณครู และช่วยให้ผู้อ่านได้เข้าใจถึงผลกระทบของความรุนแรงที่ใช้กับเด็ก ยิ่งไปกว่านั้น ในตอนจบของหนังสือนิทานเล่มนี้ยังกระตุ้นความคิดผู้อ่านด้วยคำถามท้ายบทที่จูงใจผู้อ่านให้ไตร่ตรองถึงลักษณะต่าง ๆ ของการลงโทษด้วยความรุนแรง และนำเนื้อหาในหนังสือไปใช้ในชีวิตจริงได้อย่างเข้าใจ อันจะนำไปสู่การเติบโตที่สวยงามของเด็กทุก ๆ คน
ด้วยความร่วมมือจากคุณครูและพลังอาสา ยูนิเซฟจะสามารถสร้างชั้นเรียนที่อบอุ่นปลอดภัยมากขึ้นได้ผ่านการสร้างวินัยเชิงบวกแทนการลงโทษด้วยการตี เพราะท้ายที่สุดแล้ว ไม่มีเด็กไม่ดี มีแต่นิสัยไม่ดีต่างหาก
ดาวน์โหลดหนังสือนิทานต้นไม้ริมฝั่งน้ำได้ที่นี่
Original article published on UNICEF Thailand.