แรงงานข้ามชาติได้ฉีดวัคซีนโควิด-19
เมื่อเดือนพฤษภาคมปี พ.ศ. 22564 ตลาดสี่มุมเมืองมีรายงานพบผู้ป่วยโควิด19 กว่า 900 ราย ซึ่งตามรายงานของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี 70% ของผู้ติดเชื้อเป็นแรงงานข้ามชาติ
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ตลาดต้องถูกปิดลงและสร้างผลกระทบต่อชุมชนรอบด้าน ซึ่งต้องล็อคดาวน์เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด
ส่วนนี้ส่งผลกระทบรุนแรงต่อแรงงานข้ามชาติ ซึ่งหลายคนเป็นแรงงานนอกระบบ ทุกคนจำเป็นต้องกักตัวอยู่ในที่พักอาศัย
เจ้าของร้านขนาดเล็กและลูกจ้างรายวันประสบปัญหายากลำบากในทันที
เมื่อไม่มีงานทำก็หมายความว่าไม่มีรายได้และการขาดรายได้นำมาซึ่งปัญหาหลากหลายสำหรับทุกคนในชุมชนนั้น
แรงงานข้ามชาติส่วนใหญ่ลังเลที่จะออกมารับความช่วยเหลือ แต่ก็จำเป็นที่พวกเขาจะต้องได้รับการดูแลสุขภาพ ดังนั้น สำนักอนามัยของกรุงเทพมหานคร สภากาชาดไทย สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ คริสตจักรไมเคิล (เขตสะพานใหม่) องค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย และองค์กรอิสระอื่นๆ ได้รวมตัวกันเพื่อให้ความช่วยเหลือแก่กลุ่มประชากรเปราะบาง เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
โดยรวมแล้วบุคลากรสาธารณสุขได้พบเจอผู้พลัดถิ่นเกือบ 100 คนจากกัมพูชา เมียนมาและเวียดนาม เพื่อช่วยสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับอันตรายของโรคโควิด19 ตลอดจนให้ข้อมูลเกี่ยวกับมาตรการป้องกันส่วนบุคคลและให้บริการฉีดวัคซีน
เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 คณะทำงานได้จัดให้บริการฉีดวัคซีนแก่กลุ่มคนเปราะบางจำนวน 24 คนที่คริสตจักรไมเคิลในเขตสะพานใหม่ ตลอดจนให้คำแนะนำด้านมาตรการป้องกันส่วนบุคคลเพื่อป้องกันโรคโควิด19
สตรีชาวกัมพูชา เนียง ซ็อก วูน วัย 39 ปีเพิ่งมาอยู่ประเทศไทยกับสามีได้ไม่กี่เดือนเมื่อตลาดต้องปิดลง อยู่ๆ เธอก็พบว่าตัวเองต้องมาอยู่ในต่างแดน พูดภาษาไทยไม่ได้ ตกงานและไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าบ้าน
มอง มอง อู จากประเทศเมียนมา อยู่ประเทศไทยมา 30 ปีแล้ว ชายวัย 51 ปีซึ่งประกอบอาชีพขายไอศครีมขี่รถไปทั่วเพื่อเร่ขายขนมหวานนี้ เมื่อเกิดการระบาดของโควิด19 ในพื้นที่ เขาถูกจำกัดบริเวณอยู่ภายในบ้าน เขาอยากได้รับวัคซีนเพื่อป้องกันตัวเองและจะได้กลับมาขายไอศกรีมอีกครั้ง
รอม ไรซา เป็นสตรีชาวกัมพูชาวัย 22 ปีซึ่งตั้งครรภ์ห้าเดือนและอยากได้รับวัคซีนเพื่อปกป้องลูกน้อยในครรภ์
ธัช ริว วัย 33 ปีจากเวียดนามอาศัยอยู่กับภรรยาของเขาและชอบเกาะติดสถานการณ์จากสถานีโทรทัศน์ไทยและสื่อสังคมออนไลน์ เขากลัวว่าจะติดเชื้อโควิด19 และไม่ได้ทำงานมากนักตั้งแต่ตลาดปิดตัวลง แต่ก็เข้าใจว่าจะต้องทำตามมาตรการป้องกันต่างๆ และเข้าใจว่าการหยุดอยู่บ้านช่วยให้ตัวเขาและครอบครัวปลอดภัย
สตรีชาวกัมพูชา พรหม โสเพียบ วัย 36 ปีกลัวมากเมื่อเกิดการระบาดใหญ่ในตลาดและในชุมชนเพราะเธอทำงานในตลาดสี่มุมเมือง มันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับครอบครัวของเธอเพราะเธอไม่กล้าออกจากบ้านและไม่สามารถทำงานได้
Original article published on WHO Thailand.
See full photo album here.