คำกล่าวของเลขาธิการสหประชาชาติเนื่องในวันสิทธิมนุษยชนสากล (10 ธันวาคม 2565)

โลกเรากำลังเผชิญกับปัญหาด้านสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวพันกันอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ความหิวโหยและความยากจนที่กำลังเพิ่มขึ้นทำร้ายสิทธิมนุษยชนและสิทธิทางการเงินของประชากรโลกหลายร้อยล้านคน

พื้นที่เสรีแห่งการอยู่รวมกันอย่างสันติกำลังหดหายไป

เสรีภาพสื่อและความปลอดภัยของผู้สื่อข่าวลดลงอย่างร้ายแรงในแทบทุกภูมิภาคทั่วโลก

ความเชื่อมั่นในสังคมลดถอยลงโดยเฉพาะในเยาวชน

โรคระบาดโควิด-19 นำไปสู่การเพิ่มขึ้นของความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็ก

การเหยียดเชื้อชาติ การไม่อดทนและกีดกันความแตกต่างแพร่กระจายอย่างควบคุมไม่ได้

ความท้าทายใหม่ ๆ ต่อสิทธิมนุษยชนถือกำเนิดขึ้นจากวิกฤติการณ์โลก 3 ประการ ทั้งการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ และปัญหามลภาวะ

และพวกเรายังพึ่งเริ่มรับรู้และเข้าใจอันตรายต่อสิทธิมนุษยชนที่เกิดจากเทคโนโลยียุคใหม่

ช่วงเวลาแห่งความยากลำบากนี้เรียกร้องให้มีการจุดประกายความมุ่งมั่นในหลักสิทธิมนุษยชนทุกด้านอีกครั้งหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นด้านพลเมือง วัฒนธรรม เศรษฐกิจ การเมือง และสังคม

คำกล่าวเรียกร้องเพื่อการลงมือแก้ปัญหาของผมในปี 2020 ได้วางให้สิทธิมนุษยชนเป็นหัวใจสำคัญของทุกทางออกของปัญหาที่เรากำลังเผชิญ

วิสัยทัศน์นี้ยังคงสะท้อนให้เห็นในรายงานเลขาธิการสหประชาชาติ (Our Common Agenda) ที่เรียกร้องให้มีการต่อสัญญาประชาคมอันมีสิทธิมนุษยชนเป็นพื้นฐาน

การครบรอบ 75 ปีแห่งปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนในปีหน้าจะต้องเป็นโอกาสแห่งการลงมือทำ

ผมขอสนับสนุนให้ประเทศสมาชิก ภาคประชาคม ภาคเอกชน และภาคีการพัฒนาทุกส่วน ร่วมยึดหลักสิทธิมนุษยชนเป็นสิ่งสำคัญในการแก้ไขวิกฤติทุกวันนี้

สิทธิมนุษยชนคือพื้นฐานแห่งศักดิ์ศรีความเป็นคนและรากฐานของสังคมที่สงบ ครอบคลุมเข้าถึงได้ ยุติธรรม เท่าเทียม และเจริญรุ่งเรือง

สิทธิมนุษยชนคือพลังแห่งความร่วมมือและยังเป็นเสียงเรียกรวมตัวมวลมหาชน

สิทธิมนุษยชนคือสิ่งพื้นฐานที่เรามีร่วมกันอย่าง มนุษยธรรม

ในวันสิทธิมนุษยชนสากลนี้ เราจะยังคงยืนหยัดเพื่อสิทธิมนุษยชน โดยปราศจากการแบ่งแยก เพราะสิทธิทุกสิทธิล้วนมีความครอบคลุมและเสมอภาค