'PROTECT' โครงการความร่วมมือของสหภาพยุโรปและองค์การสหประชาชาติโครงการใหม่ส่งเสริมการคุ้มครองแรงงานข้ามชาติหญิงและเด็กในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
กรุงเทพ, วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2567 – สหภาพยุโรป (EU) ประกาศให้ทุนสนับสนุน กว่า 500 ล้านบาท (13ล้านยูโร) แก่องค์การสหประชาชาติสำหรับโครงการความร่วมมือใหม่ที่มีชื่อว่า ‘PROTECT’ ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างสิทธิแรงงานข้ามชาติหญิง เด็กและกลุ่มที่มีความเสี่ยงในประเทศกัมพูชา อินโดนีเซีย มาเลเซียและไทย
โครงการ PROTECT ที่มีระยะการดำเนินงาน 3 ปี จะมุ่งส่งเสริมงานที่มีคุณค่าและลดความเปราะบางของกลุ่มที่มีความเสี่ยงด้วยการส่งเสริมสิทธิแรงงาน การป้องกันและการรับมือกับความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็ก การค้ามนุษย์ และการลักลอบนำแรงงานข้ามชาติเข้าประเทศ
ฯพณฯ เอกอัครราชทูต นายเดวิด ดาลี คณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทยกล่าวว่า “ผู้คนทั่วโลกถูกบีบบังคับให้ต้องทิ้งบ้านเพื่อเสาะหาโอกาสและชีวิตที่ดีกว่าเดิม ในการเดินทางข้ามพรมแดนและที่จุดหมายปลายทาง แรงงานข้ามชาติหญิงและเด็กมีความเสี่ยงที่สูงกว่ากลุ่มอื่นๆ สหภาพยุโรปมีความภาคภูมิใจที่จะสนับสนุนภาคีสหประชาชาติในโครงการใหม่ที่มุ่งแก้ปัญหาซึ่งเป็นปรากฎการณ์ระดับโลกนี้ในระดับภูมิภาค เราจะทำงานร่วมกับประเทศไทยและประเทศภาคีอื่นๆ ในภูมิภาค ในการให้ความคุ้มครองแก่ผู้หญิงและเด็ก เสริมสร้างการบริหารจัดการเกี่ยวกับการย้ายถิ่นแรงงาน แก้ปัญหาการค้ามนุษย์และการลักลอบนำแรงงานข้ามชาติเข้าประเทศ รวมถึงพัฒนาช่องทางทางกฎหมายสำหรับนโยบายการย้ายถิ่นของแรงงานที่ยั่งยืน”
ในกลุ่มประเทศสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) มีผู้ย้ายถิ่นประมาณ 10.6 ล้านคน โดยเกือบครึ่งหนึ่งเป็นผู้หญิง และอีก 1.3 ล้านคนเป็นเด็ก แรงงานข้ามชาติโดยเฉพาะกลุ่มอาชีพที่ได้รับค่าจ้างต่ำ เผชิญกับปัญหาต่างๆ มากมาย ที่รวมถึงการแสวงหาประโยชน์ด้านแรงงาน การค้ามนุษย์ และความรุนแรงและการคุกคาม แรงงานหญิงข้ามชาติส่วนใหญ่ทำงานในภาคเศรษฐกิจนอกระบบซึ่งมักเป็นงานชั่วคราวและได้รับการคุ้มครองทางสังคมเพียงเล็กน้อยหรือแทบไม่ได้รับการคุ้มครองทางสังคมเลย เด็กๆ ที่ติดตามแรงงานข้ามชาติมีความเสี่ยงสูงที่จะเผชิญกับการละเมิด การแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบและการค้ามนุษย์ รวมถึงการเข้าถึงการบริการเพื่อการคุ้มครองเด็กที่ไม่เพียงพอ
โครงการ ‘PROTECT’ ดำเนินการโดย 4 หน่วยงานภายใต้องค์การสหประชาชาติ ดังต่อไปนี้ องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ไอแอลโอ) องค์การเพื่อการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศและเพิ่มพลังของผู้หญิงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นวีแมน) สำนักงานยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นโอดีซี) และกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (ยูนิเซฟ)
หน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการจะทำงานร่วมกับผู้เกี่ยวข้องใน 4 ประเทศ เพื่อเสริมสร้างกฎหมายและนโยบายให้ประสิทธิภาพ ยกระดับขีดความสามารถและกลไกเพื่อคุ้มครองสิทธิต่างๆ ของกลุ่มเป้าหมายให้ดีขึ้น และเพิ่มการเข้าถึงข้อมูลและบริการต่างๆ
กีต้า ซับบระวาล ผู้ประสานงานประจำสหประชาชาติ กล่าวถึงความร่วมมือที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นระหว่างรัฐบาลไทย สหภาพยุโรป และสหประชาชาติ ว่าเป็น “หลักสำคัญ” ด้านสิทธิของผู้ย้ายถิ่น “โครงการความมือระหว่างสหภาพยุโรปและสหประชาชาติโครงการนี้จะมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาเป้าหมายที่มีร่วมกันในการปกป้องผู้ย้ายถิ่นผู้หญิงและเด็กที่เปราะบาง ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจากเกือบครึ่งหนึ่งของแรงงานข้ามชาติในภูมิภาคนี้เป็นผู้หญิง และอีก 1.3 ล้านคนเป็นเด็ก การย้ายถิ่นอย่างปลอดภัยและการทำงานที่มีคุณค่าจะช่วยเพิ่มการเติบโตที่ยั่งยืนให้กับอาเซียนและยกระดับคุณภาพชีวิตของหลายล้านครัวเรือน โดยเฉพาะผู้ที่ด้อยโอกาสที่สุด และสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือการนำภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบสถานะด้านสิทธิมนุษยชน สิ่งนี้จะทำให้เกิดการสร้างพื้นที่ทำงานที่ปลอดภัยและเหมาะสมที่ให้ความสำคัญกับผู้หญิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมที่ผู้หญิงเสี่ยงต่อการถูกแสวงหาผลประโยชน์”
ชิโฮโกะ อาซาดะ มิยากาวะ ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่และผู้อำนวยการองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ประจำภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก กล่าวถึงความสำคัญของโครงการใหม่นี้ในภูมิภาคนี้ว่า “การย้ายถิ่นของแรงงานถือเป็นตัวขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในประเทศต้นทางและประเทศปลายทาง สร้างประโยชน์ให้กับแรงงานข้ามชาติ ชุมชน และนายจ้าง ทุกฝ่ายร่วมกัน หากเราต้องการให้การคุ้มครองและการเข้าถึงงานที่มีคุณค่าดังที่แรงงานข้ามชาติสมควรได้รับ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความยุติธรรมทางสังคม นโยบายและแนวทางการกำกับดูแลการย้ายถิ่นจำเป็นต้องตอบสนองความต้องการที่แตกต่างระหว่างหญิงและชาย มีความครอบคลุมและสอดคล้องกับมาตรฐานแรงงานระหว่างประเทศ”
“การจัดการกับปัญหาที่ความรุนแรงและการคุกคามต่อแรงงานข้ามชาติหญิงที่พบได้โดยทั่วไปในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นเรื่องที่จำเป็น เราจะดำเนินการส่งเสริมสิทธิต่างๆ ความปลอดภัย และศักดิ์ศรีของแรงงานข้ามชาติหญิงผ่านโครงการความร่วมมือนี้ เพื่ออนาคตที่แรงงานข้ามชาติหญิงทุกคนสามารถใช้ชีวิตและทำงานโดยปราศจากความหวาดกลัวและการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ” อาเลีย เอล – ยาสซีร์ ผู้อำนวยการสำนักงานภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิค องค์การเพื่อการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศและเพิ่มพลังของผู้หญิงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นวีแมน) กล่าว
“เด็กข้ามชาติมีความเปราะบางอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทของการย้ายถิ่นของแรงงาน” เดโบรา โคมินี ผู้อำนวยการสำนักงานภาคพื้นภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก กองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (ยูนิเซฟ) กล่าว “เด็กๆ เสี่ยงต่อการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ การละเมิด และความรุนแรง เด็กเหล่านี้ไม่สามารถเข้าถึงการศึกษา บริการสาธารณสุข และการคุ้มครองทางสังคม นโยบายและแนวปฏิบัติด้านการย้ายถิ่นจะต้องให้ความสำคัญกับมิติเด็กที่มีความละเอียดอ่อน และคุ้มครองสิทธิและประโยชน์สูงสุดของเด็กทุกคน ไม่ว่าสถานภาพด้านการย้ายถิ่นของเด็กเหล่านั้นจะเป็นอย่างไร”
“เพื่อทำลายวงจรการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบและการละเมิด การคุ้มครองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ และแรงงานข้ามชาติที่ถูกลักลอบพาเข้าเมืองก่อนและระหว่างกระบวนการยุติธรรมทางอาญาถือเป็นสิ่งสำคัญ” มาซุด คาริมิพัวร์ ผู้แทนสำนักงานอาชญากรรมและยาเสพติดแห่งสหประชาชาติ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิค กล่าว “ภายใต้โครงการใหม่นี้ ยูเอ็นโอดีซีจะดำเนินการต่อยอดจากงานที่เคยทำร่วมกับหน่วยงานด้านการบังคับใช้กฎหมายและหน่วยงานด้านการยุติธรรมในภูมิภาค เพื่อตรวจสอบให้สิทธิของผู้เสียหายได้รับการคุ้มครอง และผู้กระทำความผิดได้รับโทษ”
โครงการ PROTECT จะดำเนินการจนถึงเดือนธันวาคม 2569 โดยดำเนินงานต่อยอดจากผลการดำเนินโครงการและบทเรียนต่างๆ จากโครงการที่ได้รับทุนสนับสนุนจากสหภาพยุโรปในปีที่ผ่านมาสองโครงการ ได้แก่ โครงการ ‘ปลอดภัยและยุติธรรม: การทำให้สิทธิและโอกาสของแรงงานข้ามชาติหญิงเป็นจริงในภูมิภาคอาเซียน’ ที่ดำเนินโครงการโดยไอแอลโอ ยูเอ็นวีแมนและยูเอ็นโอดีซี ระหว่างปี 2561 ถึง 2566 และ ‘การคุ้มครองเด็กที่ได้รับผลกระทบจากการย้ายถิ่นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียกลาง’ ที่ดำเนินโครงการโดยยูนิเซฟ ระหว่างปี 2561 ถึง 2565
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
ธนภรณ์ สาลีผล
เจ้าหน้าที่ฝ่ายการเมืองและข้อมูลข่าวสาร คณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย
อีเมล: delegation-thailand-pi[@]eeas.europa.eu
โทร: +66 2 305 2662
สตีฟ นีแดม
เจ้าหน้าที่อาวุโสด้านการสื่อสาร องค์การแรงงานระหว่างประเทศ ประจำภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก
อีเมล์: needham[@]ilo.org
โทร: +66 836066628
ลอร่า กิล
เจ้าหน้าที่ด้านการสื่อสารยูเอ็นโอดีซี
อีเมล์: laura.gil[@]un.org
โทร: +66 61 173 0864
ดิเอโก เดอ ลา โรซา
เจ้าหน้าที่ผู้ชำนาญการงานสื่อสารระดับภูมิภาค ยูเอ็นวีแมน
อีเมล์: diego.delarosa[@]unwomen.org
โทร: +66995037177