ดิฉันมีความยินดีที่ได้มาอยู่ร่วมกับทุกท่านในวันนี้ ในวาระโอกาสที่น่าจดจำของการลงนามในบันทึกความเข้าใจระหว่างสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรและ UNDP
พิธีลงนามในวันนี้เป็นการสถาปนาความร่วมมือที่สำคัญระหว่างรัฐสภาแห่งประเทศไทย และสหประชาชาติ
ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการเปิดเส้นทางให้สมาชิกรัฐสภาและเจ้าหน้าที่รัฐสภาเข้ามามีบทบาทสำคัญในการผลักดันเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ในประเทศไทย การนำของท่านมีความสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนให้กับผู้คนทั่วประเทศ พร้อมกับจุดประกายให้เกิดความร่วมมือกับพันธมิตรที่หลากหลายเพื่อสร้างความก้าวหน้าให้กับแนวคิดเรื่องความยั่งยืนอย่างมีนวัตกรรม และนำไปสู่การประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันและภาคธุรกิจ
เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนเป็นพิมพ์เขียวในการก้าวไปสู่อนาคตที่ดีขึ้นและยั่งยืนกว่าเดิมสำหรับทุกคน วิสัยทัศน์หลักคือการขจัดความยากจน พิทักษ์งโลก และช่วยให้ทุกคนมีชีวิตที่เป็นสุขด้วยสันติภาพและความมั่งคั่ง
และในขณะที่เรากำลังฟื้นตัวจากการระบาดใหญ่ วันนี้จึงถือเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด หลักฐานทั้งหมดชี้ว่าการระบาดใหญ่จะส่งผลกระทบต่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน แต่ไม่จำเป็นต้องเป็นเช่นนั้น ตราบใดที่มีเรามีการจัดลำดับความสำคัญ และมีการขยายการลงทุนภาครัฐและภาคเอกชนอย่างเต็มที่และมีกลยุทธ์
ในถ้อยแถลง “รับผิดชอบร่วมกันเพื่อความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันทั่วโลก” เลขาธิการอันโตนิอู กุแตเรช ได้กำหนดแนวทางให้กับการดำเนินงานของสหประชาชาติ และเน้นย้ำถึงความจำเป็นของแผนการรับมือแบบทั่วทั้งสังคมและองค์กรรัฐบาล
ดิฉันขอแสดงความยินดีแด่ท่านเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรสำหรับแนวคิดที่ก้าวหน้าและการเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับ UNDP ซึ่งจะเป็นการสร้างพื้นฐานที่มั่นคงสำหรับรัฐบาลไทยในการมีส่วนร่วมกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน
ขอแสดงความยินดีกับ UNDP สำหรับการพัฒนาคู่มือเรื่อง “บทบาทของรัฐสภาต่อการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน” ซึ่งเป็นรากฐานที่สำคัญของโครงการนี้
ดิฉันขอปิดท้ายด้วยการชื่นชมทุกท่านอีกครั้ง สำหรับความเป็นผู้นำและความมุ่งมั่นของท่าน ในการเพิ่มการมีส่วนร่วมของรัฐสภาโดยใช้แนวปฏิบัติแบบทั่วทั้งรัฐบาล เพื่อก้าวไปสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน