ล่าสุด
26 มิถุนายน 2025
#เมื่อผู้หญิงเป็นผู้นำ ผลักดัน “คู่” ประกอบการพาผลิตภัณท์สมุนไพร Goodganic สู่ชั้นวางสินค้า
12 พฤษภาคม 2025
คำกล่าวของอันโตนิโอ กุเตอเรส เลขาธิการสหประชาชาติ เนื่องในวันวิสาขบูชา 12 พฤษภาคม 2568
21 เมษายน 2025
กทม. ร่วมมือ UN ส่งต่อหมวกนิรภัย 2,106 ใบ ปกป้องเด็กนักเรียนบนถนนกรุงเทพฯ
ล่าสุด
เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนใน ประเทศไทย

บันทึกความเข้าใจ (MoU) ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างไตรภาคีและประเทศในภูมิภาคใต้-ใต้ (South-South and Triangular Cooperation) สนับสนุนการแบ่งปันความรู้และการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างประเทศในภูมิภาค ผ่านเครือข่าย CONNECT โดยมหาวิทยาลัยมหิดลและ ILO สนับสนุนความร่วมมือนี้ผ่านโครงการวิจัยร่วมกัน โปรแกรมการฝึกอบรม และการหารือเชิงนโยบาย ดังนั้นจึงเป็นพื้นที่ให้ประเทศต่างๆ แลกเปลี่ยนแนวปฏิบัติและกลยุทธ์ทางนวัตกรรมที่ดีที่สุดเพื่อเสริมสร้างระบบการคุ้มครองทางสังคม “วันนี้ เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ยืนยันความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยมหิดลอีกครั้ง เป็นพลังความร่วมมือทางวิชาการในการขับเคลื่อนความก้าวหน้า” คาโอริ นากามูระ-โอซากะ ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่และผู้อำนวยการองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ประจำภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก กล่าว “ความร่วมมือนี้แสดงถึงความสำคัญของการฝึกอบรมระยะยาวและความร่วมมือทางวิชาการในการพัฒนาผู้นำรุ่นใหม่ด้านการคุ้มครองทางสังคมด้านสุขภาพ ซึ่งเป็นผู้ที่จะส่งเสริมหลักการสากลเพื่อระบบการคุ้มครองทางสังคมด้านสุขภาพที่ครอบคลุมคนทุกกลุ่ม”“พิธีลงนามข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง ILO กับมหาวิทยาลัยมหิดลครั้งนี้ เป็นหมุดหมายสำคัญของการสร้างความร่วมมือเพื่อพัฒนาศักยภาพทางวิชาการ การวิจัย และการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านการคุ้มครองทางสังคมด้านสุขภาพ นอกจากนี้ ความร่วมมือดังกล่าวยังเป็นศักขีพยานแห่งความสำเร็จระหว่างองค์กรทั้งสองที่จะก้าวเดินไปด้วยกัน” ศาสตราจารย์ นายแพทย์ ปิยะมิตร ศรีธรา อธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าว
สถาบันพัฒนาสุขภาพอาเซียน มหาวิทยาลัยมหิดล (The ASEAN Institute for Health Development - AIHD) จะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางสำคัญในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของบันทึกความเข้าใจ ความเชี่ยวชาญของสถาบันพัฒนาสุขภาพอาเซียนในด้านสุขภาพระดับโลกและแนวทางสหวิทยาการจะส่งเสริมให้เกิดการทำงานร่วมกันระหว่างมหาวิทยาลัย รัฐบาล และองค์กรระดับประเทศ ระดับภูมิภาคและระดับโลก
CONNECT เป็นเครือข่ายที่ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2562 โดยองค์การแรงงานระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยมหิดล และพันธมิตรซึ่งรวมถึงสำนักงานวิจัยเพื่อการพัฒนาหลักประกันสุขภาพไทย สถาบันนโยบายและยุทธศาสตร์ด้านสุขภาพของเวียดนาม สถาบันสุขภาพและกิจการสังคมแห่งเกาหลี และมหาวิทยาลัยแห่งชาติโซล โดยเป็นเครือข่ายผู้ร่วมบุกเบิกจากหน่วยงานภาครัฐ และองค์กรภาคประชาสังคมในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ทำงานร่วมกันเพื่อปิดช่องว่างของการคุ้มครองทางสังคมด้านสุขภาพ
หลักสูตรการจัดการสาธารณสุขมูลฐาน มหาบัณฑิต (MPHM) เปิดตัวในปี 2563 โดยสถาบันพัฒนาสุขภาพอาเซียน มหาวิทยาลัยมหิดล ด้วยการสนับสนุนจาก ILO เป็นหลักสูตรปริญญาโทที่ใช้ระยะเวลาในการเรียน 1 ปี ที่ออกแบบมาเพื่อเสริมสร้างศักยภาพของผู้ปฏิบัติงานด้านการคุ้มครองทางสังคมด้านสุขภาพในภูมิภาค จนถึงปัจจุบันนี้ มีนักศึกษาจำนวน 21 คนจาก 7 ประเทศ ที่ได้รับทุนการศึกษาระดับมหาบัณฑิต
การคุ้มครองทางสังคมด้านสุขภาพมีความสำคัญ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย ที่ในแต่ละปีมีผู้คนหลายล้านคนต้องตกอยู่ในความยากจนเนื่องจากค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพที่ต้องจ่ายเอง การเสริมสร้างกรอบความคุ้มครองทางสังคมจึงเป็นเรื่องสำคัญในการลดความเสี่ยงทางการเงินที่เกิดจากความเจ็บป่วย ความพิการ และความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจ , filtered_html

มิเกลล่า ฟิลแบรย์-สตอเร่ ผู้ประสานงานสหประชาชาติประจำประเทศไทย ปฏิบัติหน้าที่ผู้แทนเลขาธิการสหประชาชาติในประเทศไทย และเป็นผู้นำทีมงานสหประชาชาติในประเทศไทยและประสานงานการสนับสนุนของสหประชาชาติต่อประเทศไทยในการเดินหน้าวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน 2030
มารีนา ปาทรีเย รองผู้อำนวยการ สำนักงานยูเนสโกส่วนภูมิภาค ณ กรุงเทพฯ
คยองซอน คิม ผู้อำนวยการองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย
หากท่านต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกิจกรรมของสหประชาชาติในประเทศไทย โปรดเยี่ยมชม thailand.un.org, filtered_html





นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเผยว่า การถ่ายภาพฉลองความสำเร็จกฎหมายสมรสเท่าเทียมวันนี้ ถือเป็นการประกาศประวัติศาสตร์ความรักที่เท่าเทียมและยังเป็นการบันทึกความก้าวหน้าของประเทศไทยที่มีกฎหมายการสมรสเท่าเทียมแห่งแรกของอาเซียน และประเทศที่ 3 ของเอเชีย ส่งผลให้คนทั่วโลกรับทราบว่า รัฐบาลนี้ เป็นรัฐบาลที่เปิดรับความหลากหลายทางเพศในสังคม และจะขับเคลื่อนการพัฒนาภาพลักษณ์ทุกมิติ เพื่อให้ประเทศไทยเป็น LGBTIQ+ Global Destination ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
นายจิรายุกล่าวต่อว่า สาระสำคัญของร่างกฎหมายฉบับนี้ เพื่อให้บุคคล 2 คนไม่ว่าจะเพศใดสามารถทำการหมั้นและสมรสได้ จาก กม.สมรสปัจจุบันที่การหมั้น ใช้คำว่า“ฝ่ายชาย ฝ่ายหญิง” แก้ไขเป็น “ผู้หมั้นและผู้รับหมั้น” หรือ “เพศ” ที่ใช้คำว่า “ชาย-หญิง” แก้ไขเป็น “บุคคลทั้ง 2 ฝ่าย” และสถานะหลังจดทะเบียนสมรส จาก “สามีภริยา/คู่สมรส” แก้เป็น “คู่สมรส/คู่สมรส” รวมทั้งการแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติอื่น ซึ่งจะทำให้บุคคลนั้นมีสิทธิ หน้าที่สถานะทางครอบครัว เท่าเทียมกับคู่สมรสที่เป็นชายและหญิง
“ช่วงที่ผ่านมา รัฐบาลได้มอบหมายให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เร่งทำความเข้าใจ ประชาสัมพันธ์เพื่อให้ประชาชนได้เข้าใจถึงสิทธิต่าง ๆ ทั้งสิทธิการจัดการทรัพย์สินของคู่สมรส สิทธิรับบุตรบุญธรรม สิทธิการลงนามยินยอมให้รักษาพยาบาลอีกฝ่าย เป็นต้น ปัจจุบันนายทะเบียน 878 อำเภอทั่วประเทศ และ 50 เขตในกรุงเทพมหานคร พร้อมอำนวยความสะดวกในการจดทะเบียนสมรสเท่าเทียม” จิรายุ กล่าว อ่านข่าวต้นฉบับจากสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล, filtered_html

ในโลกที่อยากทำ” แต่ไม่สามารถทำได้ที่นี่ [ในพื้นที่พักพิงชั่วคราวฯ]” เขาสะท้อนถึงความรู้สึกที่เต็มไปด้วยอุปสรรคที่เขาต้องพบเจอผ่านใบหน้าของเขากาพรูเป็นหนึ่งในจำนวนสมาชิกที่ได้รับคัดเลือกจากจำนวน 37 คนของสภาเยาวชนในพื้นที่พักพิงชั่วคราวฯ บ้านถ้ำหิน ซึ่งเป็นกลุ่มที่ก่อตั้งขึ้นผ่านการเลือกตั้งระดับโรงเรียนเมื่อต้นปีนี้ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเขาและเพื่อนของเขาออนกู วัย 14 ปี ได้เข้าร่วมกิจกรรมอย่างกระตือรือร้นในสภาเยาวชนนี้โครงการสภาเยาวชนเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมที่ได้รับทุนสนับสนุนจากสหภาพยุโรป โดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อริเริ่มกิจกรรมด้านการคุ้มครองเด็ก ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อส่งเสริมให้อาสาสมัครเยาวชนผู้หนีภัยสามารถเป็นผู้นำกิจกรรมที่เสริมสร้างทักษะความเป็นผู้นำและส่งผลกระทบเชิงบวกต่อชุมชนของพวกเขามูลนิธิโคเออร์ พันธมิตรของสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ดำเนินกิจกรรมทั้งหมดครอบคลุม 9 พื้นที่พักพิงชั่วคราวฯ ในประเทศไทย กลุ่มอาสาสมัครเยาวชนชายและหญิงที่ผ่านการฝึกอบรมกว่า 380 คนในสภาเยาวชน
ได้ทำงานร่วมกันในสามโครงการสำคัญ โดยเข้าถึงเด็กและเยาวชนกว่า 4,000 คนผ่านการรณรงค์สร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการใช้สารเสพติด ความพยายามเพื่อป้องกันการแต่งงานในวัยเด็ก และการป้องกันตนเองสำหรับเด็กเล็กทุกสองสัปดาห์ ออนกูและกาพรูจะไปเยี่ยมผู้หนีภัยสูงอายุที่อาศัยอยู่ลำพังร่วมกับเพื่อนๆ โดยจะมีการช่วยทำความสะอาด และในบางวันพวกเขาจะรวมตัวกันเก็บขยะในพื้นที่พักพิงชั่วคราวฯ จัดเวลารณรงค์ให้เด็กเล็กตระหนักรู้ถึงการป้องกันตนเอง หรือจัดกิจกรรมเล่นกีฬา ซึ่งเป็นกิจกรรมที่เสริมสร้างจิตวิญญาณแห่งชุมชน“ก่อนจะร่วมโครงการสภาเยาวชน ฉันเคยเป็นคนขี้อายมากๆ ฉันไม่เคยคุยกับคนแปลกหน้า” ออนกูเล่าด้วยรอยยิ้ม “ตอนนี้ฉันรู้สึกมั่นใจและมีความรู้มากขึ้น และฉันได้ช่วยเด็กผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เป็นเหมือนฉันให้กล้าแสดงความคิดเห็นออกมา”สำหรับกาพรู การได้เข้าร่วมโครงการสภาเยาวชนนั้นทำให้ชีวิตเขาเปลี่ยนไป “โครงการนี้ช่วยให้ผมเติบโตขึ้นและเข้าใจถึงผลที่ตามมาจากการกระทำที่ไม่ดี” เขากล่าวพร้อมสะท้อนให้เห็นถึงคุณค่าที่กิจกรรมเหล่านี้มอบให้กับตัวเขาและเพื่อนๆพื้นที่พักพิงชั่วคราวฯ บ้านถ้ำหิน คือบ้านของผู้หนีภัยมากกว่า 4,900 คนที่อพยพมาจากเมียนมา กว่าร้อยละ 38 เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 17 ปี เด็กส่วนใหญ่รวมทั้งกาพรูและออนกูเกิดและเติบโตในพื้นที่พักพิงชั่วคราวฯ และหลายคนไม่เคยก้าวออกนอกเขตของพื้นที่เลย ความเข้าใจถึงโลกภายนอกของพวกเขาถูกจำกัดด้วยจินตนาการ ที่เต็มไปด้วยความฝันที่นึกถึงสิ่งต่างๆที่อยู่ด้านนอกพื้นที่พักพิงชั่วคราวฯผ่านสภาเยาวชน กาพรูและออนกูมุ่งมั่นที่จะทะลายต่อทัศนคติเดิมๆ ที่มีต่อผู้หนีภัย “เราต้องการให้โลกเห็นว่าผู้ลหนีภัยอย่างพวกเราคือคนที่มีความสามารถ” กาพรูกล่าว “โลกนี้มีสิ่งที่น่าค้นหา น่าสำรวจ และมีโอกาสมากมาย เราต้องการเป็นอิสระและมีสิทธิเท่าเทียมกับผู้อื่น” ออนกู กล่าวเสริมที่ปลายแขนของเขา กาพรูมีร่างรอยสักที่เขาออกแบบเอง ซึ่งแสดงถึงความฝันและตัวตนของเขาได้อย่างชัดเจน อักษร L-O-V-E ทอดยาวไปตามนิ้วของเขา ในขณะที่ลวดหนามและเขาควายพันกันเป็นลวดลายที่คล้ายกับปีกนกยูงที่พลิ้วไหว “นี่คือวิธีแสดงออกถึงตัวตนของผม” เขากล่าวขณะจ้องมองหมึกบนแขนที่เป็นสัญลักษณ์ของความหลงใหลและความอดทนของเขา “ผมชอบเต้นรำ ผมเคยชนะการแข่งขันด้วยซ้ำ เมื่อผมเต้นรำ ผมสามารถลืมสิ่งท้าทายรอบตัวและทำให้ผมรู้สึกเป็นอิสระ”นอกจากการเต้นรำ กาพรูยังชอบเล่นฟุตบอลและวอลเลย์บอลกับเพื่อนของเขา เขาชอบเขียนบทกวีและเพลงที่สามารถถ่ายทอดเรื่องราวประสบการณ์และความฝันของเขา ออนกูสนุกสนานกับการแต่งหน้าและร้องเพลง แต่ก็ยังมีความฝันที่จะเป็นหมอหากได้รับโอกาสทางการศึกษาที่ดี “เรามีหลายสิ่งมากมายที่จะมอบให้ และเราพร้อมที่จะแบ่งปันสิ่งเหล่านี้กับคนทั่วโลก” ทั้งสองคนกล่าว ซึ่งสะท้อนถึงความบากลำบากและความคิดสร้างสรรค์ที่เบ่งบานแม้จะมีข้อจำกัดในพื้นที่แห่งนี้, filtered_html

เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงสีเขียวในระยะยาวเกิดขึ้น"เราต้องเน้นที่การศึกษา ตั้งแต่การพัฒนาเด็กปฐมวัย โรงเรียนประถมศึกษา จนถึงการศึกษาในทุกระดับการศึกษาและการลงทุนในความรู้ดิจิทัล เราต้องรวมมิติสู่ความยั่งยืนในหลักสูตรตั้งแต่ต้นและส่งเสริมให้นักศึกษามหาวิทยาลัยมุ่งเน้นที่พลังงานหมุนเวียน เทคโนโลยีคาร์บอนต่ำ และวัฏจักรชีวิตการผลิต แรงงานต้องได้รับการสนับสนุนไม่เพียงแค่การพัฒนาทักษะใหม่และยกระดับทักษะ แต่ยังต้องมีแนวคิดความยั่งยืน"ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมหัวข้อที่สอง การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อความเสมอภาค การพัฒนาอย่างยั่งยืนและครอบคลุมจะไม่สำเร็จหากไม่มีการริเริ่มที่กล้าหาญจากธุรกิจ เราได้เห็นนวัตกรรมที่เปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น ยางพารา การก่อสร้าง และพลังงานหมุนเวียน จากฟาร์มโซล่าลอยน้ำ การบำบัดน้ำเสีย ไปจนถึงวัสดุคาร์บอนต่ำที่เปลี่ยนแปลงภาคการก่อสร้าง"ธุรกิจไทยพิสูจน์ว่าการปฏิบัติที่ยั่งยืนและความสามารถในการทำกำไรสามารถไปด้วยกันได้ อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนไปสู่เทคโนโลยีสีเขียวต้องเร่งด่วน การประชุมสุดยอดแห่งอนาคตได้เน้นถึงความต้องการเร่งด่วนในการลงทุนภาคเอกชนในวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมเพื่อบรรลุเป้าหมาย SDGs และแก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศ ธุรกิจมีตำแหน่งที่ไม่เหมือนใครในการเป็นผู้นำโดยการลงทุนในความรู้ดิจิทัลและ
เทคโนโลยียั่งยืนที่ขับเคลื่อนประสิทธิภาพ"การส่งเสริมกลไกการเงินที่ครอบคลุมและนวัตกรรม และสร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมการลงทุนและการเป็นผู้ประกอบการ โดยเฉพาะการสนับสนุนสตาร์ทอัพและ SMEs GCNT มองว่าเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น AI เป็นโอกาสในการตอบสนองความต้องการของเศรษฐกิจสีเขียวและได้นำแนวคิดของสติปัญญาที่ยั่งยืนมาใช้ในกลยุทธ์การปลดล็อกการเงินที่ยั่งยืนหัวข้อที่สาม การปลดล็อกการเงินที่ยั่งยืน ตามที่เลขาธิการสหประชาชาติเน้นย้ำในการประชุม COP29 "การเงินสำหรับสภาพภูมิอากาศไม่ใช่การกุศล แต่เป็นการลงทุน การดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศไม่ใช่ทางเลือก แต่มันเป็นความจำเป็น"การบรรลุเป้าหมายธุรกิจที่ครอบคลุมและการเปลี่ยนแปลงสีเขียวต้องการไม่เพียงแค่วิสัยทัศน์แต่ยังต้องการการลงทุนที่สำคัญ ประเทศไทยได้แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำในการระดมทุน 19,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับโครงการ ESG และวางแผนที่จะออกพันธบัตรความยั่งยืนมูลค่า 3,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีงบประมาณ 2025สหประชาชาติยังมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาตลาดคาร์บอนร่วมกับภาคเอกชนเพื่อสร้างเครดิตคาร์บอนที่ช่วยเหลือชุมชนที่เปราะบาง การเปลี่ยนการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศเป็นโอกาสสำหรับการเติบโตแบบครอบคลุม โดยการปลดล็อกเงินทุนสำหรับความยั่งยืน เราสามารถปูทางไปสู่อนาคตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและยืดหยุ่นมากขึ้น ธุรกิจมีโอกาสที่ไม่เหมือนใครในการเป็นผู้นำในพื้นที่นี้ ———————ผู้เขียน วิรัสนันท์ ถึงถิ่น (กรุงเทพธุรกิจ), filtered_html
ผู้ประสานงานสหประชาชาติได้กล่าวชื่นชมพัฒนาการที่ดีและบทบาทที่โดดเด่นของไทยในด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนในหลายด้าน อาทิ การส่งเสริมความหลากหลายและความเท่าเทียมทางเพศ ความตระหนักรู้ของหลายภาคส่วนในสังคมเกี่ยวกับ SDGs โดยเฉพาะภาคเอกชน ภาควิชาการ และเยาวชน ซึ่งมีความมุ่งมั่นในการดำเนินการเพื่อขับเคลื่อนวาระการพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างจริงจังและเห็นผลเป็นรูปธรรม รวมถึงเจตนารมณ์ของรัฐบาลในการขับเคลื่อนวาระการพัฒนาที่ยั่งยืนในทุกระดับ ส่งผลให้ไทยเป็นหนึ่งในผู้นำด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนในภูมิภาค โดยผู้ประสานงานสหประชาชาติยืนยันความพร้อมของทีมงานสหประชาชาติในประเทศไทยที่จะสนับสนุนการบรรลุ SDGs ของไทย และการพัฒนาประเทศในด้านต่าง ๆ อย่างยั่งยืน รวมถึงการส่งเสริมบทบาทที่เข้มแข็งในด้านนี้ของไทยในเวทีระหว่างประเทศ
นอกจากนี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีฯ ได้ย้ำถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการขับเคลื่อนนโยบายและวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน และการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งยังแสดงความพร้อมที่จะร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับผู้ประสานงานสหประชาชาติและทีมงานสหประชาชาติในประเทศไทยเพื่อขับเคลื่อนวาระด้านการต่างประเทศที่สำคัญ อาทิ การให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่เมียนมา การเข้าเป็นสมาชิก OECD ของไทย และการเสริมสร้างความเข้มแข็งของระบบพหุภาคี รวมถึงการจัดทำกรอบความร่วมมือว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืนฉบับใหม่ระหว่างทีมงานสหประชาชาติและไทยที่สะท้อนประเด็นสำคัญและผลประโยชน์ของไทยอย่างครอบคลุม —————————กระทรวงการต่างประเทศ, filtered_html
Where we work: The UN’s programmatic interventions
The UN is implementing 0 programmatic interventions during the ongoing programme cycle. The map below displays the number of programmatic interventions per location (note that a programmatic intervention may be linked to more than one location). Click on the number on the map to get a summary description of the programmatic interventions. Programmatic interventions may be linked to the national level or specific locations/sub-national level. Note that some interventions linked to specific locations might also have components at the national level, even if they are not categorized as country-level interventions. Click on “Show location details” in the bottom right corner to view a summary table with locations, the number of programmatic interventions, and the UN entities working in those locations. For definitions of programmatic interventions, please refer to the Glossary section.